DID YOU KNOW By NSC

DAC (Direct Attach Cable) คืออะไร

       DAC (Direct Attach Cable) เป็นสายสัญญาณที่ผลิตจากสายเคเบิลทองแดง มีหัวต่อ Transceiver Module มาพร้อมกับสายทั้งสองด้าน โดย Transceiver Module มีความเร็วให้เลือกตามที่ต้องการเชื่อมต่อ เช่น 10G (SFP+), 40G (QSFP+), และ 100G (QSFP28) สาย DAC มีให้เลือกทั้งแบบ Passive และ Active

ข้อดีของ DAC

       ราคาถูก: สาย DAC มีต้นทุนต่ำกว่าสายใยแก้วนำแสง (Optical Fiber) ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากในโครงสร้างพื้นฐานของ Data Center ติดตั้งง่าย: สาย DAC มาพร้อมกับหัวต่อ Transceiver Module ทำให้การติดตั้งเป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ว ประสิทธิภาพสูง: รองรับความเร็วในการเชื่อมต่อสูง เช่น 10G, 40G, และ 100G ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วสูง ความน่าเชื่อถือสูง: สายทองแดงมีความทนทานและน่าเชื่อถือในการใช้งานในระยะสั้น

ข้อเสียของ DAC

       ระยะการเชื่อมต่อจำกัด: สาย DAC มีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทางการเชื่อมต่อ โดยทั่วไปจะรองรับได้ไม่เกิน 12 เมตร น้ำหนักและความหนา: สายเคเบิลทองแดงมีน้ำหนักมากและหนากว่าสายใยแก้วนำแสง ทำให้การจัดการสายเป็นไปได้ยากขึ้นในบางกรณี ความยืดหยุ่นต่ำกว่า: การโค้งงอและการติดตั้งในพื้นที่แคบอาจจะทำได้ยากกว่าสายใยแก้วนำแสง

การใช้งานที่เหมาะสมสำหรับ DAC

       การเชื่อมต่อระยะสั้นในตู้ Rack เดียวกัน: เหมาะสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายในตู้ Rack เดียวกัน เช่น การเชื่อมต่อระหว่าง Switch กับ Server หรือ Network Storage ใน ToR (Top of Rack) หรือ EoR (End of Row) Data Center ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง: สำหรับ Data Center ที่มีการเชื่อมต่อระยะสั้นและต้องการลดต้นทุนในการติดตั้ง การใช้งานที่ไม่ต้องการความยืดหยุ่นสูง: เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของการโค้งงอสายเคเบิล

สรุป

       DAC (Direct Attach Cable) เป็นสายสัญญาณที่มีความคุ้มค่าในการใช้งานสำหรับการเชื่อมต่อระยะสั้นใน Data Center โดยมีข้อดีในเรื่องของราคาถูก ติดตั้งง่าย และประสิทธิภาพสูง แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทางและความยืดหยุ่นในการติดตั้งที่ต่ำกว่า AOC (Active Optical Cable) ดังนั้นการเลือกใช้สาย DAC ควรพิจารณาตามลักษณะการใช้งานและความต้องการของระบบ Data Center ของคุณ

(Direct Attach Cable)

AOC (Active Optical Cable) คืออะไร

       AOC (Active Optical Cable) เป็นสายสัญญาณที่ผลิตจากสายใยแก้วนำแสง (Optical Fiber) โดยมีหัวต่อ Transceiver Module ติดตั้งมาพร้อมทั้งสองด้าน เช่นเดียวกับ DAC แต่ต่างกันตรงที่ AOC ใช้ใยแก้วนำแสงเป็นสื่อในการส่งสัญญาณ ซึ่งมีการแปลงสัญญาณไฟฟ้าเป็นสัญญาณแสงในตัวสาย ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้ระยะไกลกว่าสายเคเบิลทองแดง

ข้อดีของ AOC

ระยะการเชื่อมต่อไกล : AOC สามารถส่งสัญญาณได้ไกลกว่าสายเคเบิลทองแดง DAC โดยทั่วไปสามารถรองรับระยะได้ตั้งแต่ 1 ถึง 100 เมตร
น้ำหนักเบาและบาง : สายใยแก้วนำแสงมีน้ำหนักเบาและบางกว่าสายเคเบิลทองแดง ทำให้สะดวกต่อการติดตั้งและการจัดการสาย
การรบกวนสัญญาณต่ำ : เนื่องจากใช้แสงเป็นสื่อกลางในการส่งข้อมูล จึงมีการรบกวนสัญญาณจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าน้อยมาก ทำให้เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อในสภาพแวดล้อมที่มีการรบกวนสูง
ประสิทธิภาพสูง : รองรับการส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง เช่น 10G, 25G, 40G, และ 100G ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วสูงและเสถียร

ข้อเสียของ AOC

ราคาสูงกว่า : AOC มีต้นทุนสูงกว่าสาย DAC เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีใยแก้วนำแสงและการผลิตที่ซับซ้อนกว่า
เปราะบางกว่า : สายใยแก้วนำแสงมีความเปราะบางกว่าสายเคเบิลทองแดง ทำให้ต้องระมัดระวังในการติดตั้งและใช้งานมากกว่า
การซ่อมแซมยาก : หากเกิดการเสียหาย การซ่อมแซมหรือเปลี่ยนแปลงสายใยแก้วนำแสงจะทำได้ยากกว่าสายทองแดง

การใช้งานที่เหมาะสมสำหรับ AOC

การเชื่อมต่อระยะไกลภายใน Data Center : เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อระหว่างตู้ Rack หรือข้ามตู้ Rack ภายใน Data Center ที่มีระยะห่างมากกว่า 10 เมตร เช่น การเชื่อมต่อ ToR Rack ไปยัง EoR Rack
การเชื่อมต่อในสภาพแวดล้อมที่มีการรบกวนสูง : เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เช่นในพื้นที่ที่มีเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมาก
การใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง : เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อที่ต้องการความเร็วสูงและเสถียร เช่น การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ในระบบเครือข่ายความเร็วสูง หรือการส่งข้อมูลที่มีปริมาณมาก

สรุป

       DAC (Direct Attach Cable) AOC (Active Optical Cable) เป็นสายสัญญาณที่ใช้เทคโนโลยีใยแก้วนำแสง ซึ่งมีความสามารถในการเชื่อมต่อระยะไกลและมีการรบกวนสัญญาณต่ำ แต่มีราคาสูงและเปราะบางกว่าสายเคเบิลทองแดง DAC ดังนั้น AOC จึงเหมาะสำหรับการใช้งานใน Data Center ที่ต้องการเชื่อมต่อระยะไกล หรือในสภาพแวดล้อมที่มีการรบกวนสูง โดยต้องพิจารณาความเหมาะสมของการใช้งานและงบประมาณที่มีอยู่


ติดต่อเราได้ทันทีที่:
273 หมู่ที่ 3 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50210
เปิดทำการเวลา 8.00 น. - 17.00 น.
ติดต่อสอบถามโทร 053-492210

NSCLINEADD